skip to Main Content
02-530-9204-5 sammachiv.pr@gmail.com
จับตา!! เทศกาลไพรด์ กทม. เมื่อฝีดาษลิงเผชิญหน้าฟื้น ศก.

จับตา!! เทศกาลไพรด์ กทม. เมื่อฝีดาษลิงเผชิญหน้าฟื้น ศก.

จับตา!! เทศกาลไพรด์ กทม.

เมื่อฝีดาษลิงเผชิญหน้าฟื้น ศก.

เสียงเตือนด้วยอาการหวั่นวิตกโรคระบาดฝีดาษลิงจะแพร่เข้าไทย นับเป็นเสียงควรใส่ใจ พร้อมเฝ้าระวังการจัดเทศกาลไพรด์ (pride festival) กลางกรุงเทพฯ ในวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ต้องเน้นหลีกเลี่ยงการสัมผัสสุ่มเสี่ยงจะเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค

 

 

เทศกาลไพรด์ เป็นการชุมนุมของกลุ่มหลากหลายทางเพศ มาแสดงขบวนพาเหรดเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมทางเพศ ประมาณว่า สังคมควรยอมรับความรักระหว่างชายกับชาย หรือหญิงกับหญิง ดังนั้น ผู้คนที่นิยมความรักหลากหลายทางเพศย่อมมาร่วมกลุ่มกันที่ไทยในเมืองกรุงเทพฯ หากประเมินผลทางเศรษฐกิจ กิจกรรมเช่นนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยได้มากโข คงสร้างรายได้เป็นกอบกำให้เจ้าของธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าโรงแรม ร้านอาหาร ผับบาร์ ย่านเที่ยวยามราตรีมากลำแสงสีตระการตาผุดลวงอารมณ์ละเมอรักนักเที่ยว

 

 

 

เมื่อเศรษฐกิจก็ต้องฟื้น รายได้เข้าประเทศก็ต้องการมาจุนเจื่อปากท้องคนทำงานและครอบครัว แต่ความน่าสะพรึงของโรคฝีดาษลิงจะอาศัยช่องโหว่ผ่อนคลายมาตรการเฝ้าระวังย่อมเป็นประตูเปิดรับอย่างง่ายดาย ด้วยประการฉะนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจึงส่งเสียงเตือนตั้งแต่เนิ่นๆ ให้ระวังให้มากทั้งช่วงก่อนจัดงานและต้องเฝ้าดูอาการตัวเอง 21 วันหลังงานเลิกลาไปแล้ว

 

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา ออกอาการหวั่นว่า ฝีดาษลิงจะระบาดในไทยช่วงไหนก็ได้ พร้อมเน้นให้จับตานักท่องเที่ยวมาจากประเทศแอฟริกา อังกฤษ โปรตุเกส สเปน แคนาดา และเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงการระบาดของเชื้อฝีดาษลิง เพราะคนกลุ่มนี้มุ่งตามเทศกาลไพรด์เข้ามาไทย

 

สิ่งสำคัญโรคฝีดาษลิงเป็นโรคติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิดโดยตรง มีระยะฝักตัว 21 วัน แบ่งออกเป็น 2 ระยะ เริ่มจากอาการ 10 วันแรกจะมีไข้สูงสูง ร่วมด้วยเจ็บคอ หรืออาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ต่อมน้ำเหลืองโต

 

ส่วนอาการระยะที่สอง คือ มีผื่นตุ่มนูน ผื่นกระจายตามใบหน้า ลำตัว แขนขา แต่ลำตัวจะเล็กน้อย ตรงเอว ไม่มาก ลักษณะจะเป็นผื่นก่อน และตุ่มนูน เปลี่ยนเป็นน้ำใส ปรับเป็นตุ่มหนอง และตกสะเก็ด ดังนั้น ใครมีอาการเข้าข่ายสงสัยจำเป็นต้องรับการตรวจที่โรงพยาบาลเร่งด่วน

 

เสียงเตือนจาก นพ.จักรรัฐ เมื่อได้ยินก็ต้องรับฟังด้วยความใส่ใจอย่างยิ่ง เพราะเสียงเตือนนี้ไม่ได้เกิดจากจินตนาการ แต่มาจากการสังเกตุด้วยภาววิสัยในกรณีการระบาดของฝีดาษลิงที่เกิดขึ้นในเทศกาลไพรด์ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่สเปน จากนั้นกระจายเชื้อแทบครอบคลุมประเทศยุโรปทั้งหมด โดยเฉพาะเมื่อ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา องค์กรความมั่นคงสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักร หรือ UKHSA แถลงยอมรับให้เชื้อฝีดาษเป็นโรคระบาดจาก “คนสู่คน” นั่นสะท้อนถึงการแพร่เชื้อส่อแนวโน้มระบาดได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

 

องค์กร UKHSA ของอังกฤษ เปิดเผยข้อมูลน่าสนใจเมื่อ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่า มีผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงสะสมในประเทศ 132 ราย ในกรุงลอนดอน ในจำนวนนี้พบมีผู้ป่วย 111 ราย เป็นกลุ่มชายรักร่วมเพศ และกลุ่มทั้งรักร่วมเพศและต่างเพศ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของผู้ป่วย ยังพบแหล่งพบการติดต่อของโรค อยู่ในสถานบันเทิง เช่น ไนท์คลับ บาร์ ซาวน่า และการใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่รัก นี่คือสถานการณ์การแพร่เชื้อแบบคนสู่คนที่น่าหวั่นระทึกอยู่ไม่น้อย

 

เมื่อพิจารณาการแพร่เชื้อตั้งแต่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา เริ่มจากสเปนไปอังกฤษแล้วลุกลามไปประเทศทั่วโลก ข้อมูลเมื่อ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อแล้วถึง 871 รายใน 40 ประเทศ โดยยุโรปเป็นแหล่งระบาดใหญ่ถึง 24 ประเทศเรียกได้ว่า แถบติดเชื้อทั้งยุโรป สำหรับเอเชียมีผู้ติดเชื้อแล้ว 4 ประเทศ คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 8 ราย อิหร่าน 3 ราย และปากีสถานกับซูดาน ประเทศละ 1 ราย

 

 

หากพิจารณาการระบาดเชื้อฝีดาษลิงตามข้อมูล 2 มิถุนายนนี้ จะพบความเข้มข้นใน 10 ประเทศมีผู้ติดเชื้อมากสุดคือ สเปน 208 ราย อังกฤษ 207 ราย โปรตุเกส 138 ราย แคนาดา 66 ราย เยอรมนี 50 ราย เนเธอร์แลนด์ 40 ราย ฝรั่งเศส 33 ราย อิตาลี 22 ราย สหรัฐอเมริกา 22 ราย และเบลเยียม 17 ราย

 

เป็นที่น่าสังเกตว่า การลุกลามของฝีดาษลิงทั้ง 35 ประเทศนั้น ล้วนอยู่นอกทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นแหล่งพื้นที่โรคประจำถิ่น และผู้คนติดเชื้อไม่ได้เดินทางไปทวีปแอฟริกาด้วย นั่นหมายถึง การติดเชื้อมาจาก “คนสู่คน” เป็นหลัก

 

 

ที่สำคัญ “คน” ผู้อยู่นอกพื้นที่ของโรคประจำถิ่น และเป็นคนในฐานะนักท่องเที่ยวเดินทางไปทั่วแดนไกลย่อมเป็นพาหนะนำเชื้อฝีดาษลิงไปแพร่ต่อได้ อีกทั้งยังเป็นคนที่มาจากประเทศกลุ่มเป้าหมายที่ไทยต้องการดึงมาเที่ยว ดังนั้นกลุ่มคนเหล่านี้ย่อมเป็นเป้าจับตาตามเสียงเตือนจากกองระบาดวิทยา

 

เป็นเสียงเตือนที่ควรรับฟังและใส่ใจอย่างยิ่งกับอาการผวาหวั่นฝีดาษลิงจะหลุดลอดเข้าไทยจึงต้องจับตากระชั้นชิดทั้งก่อนมาร่วมเทศกาลไพรด์และเฝ้าดูอาการต่อเนื่องไปอีก 21 วัน พูดง่ายๆคือ คอยดูอาการตลอดทั้งเดือนมิถุนายน จะมีฝีดาษลิงลามไทยหรือไม่

 

 


ติดตามข้อมูลข่าวสารของมูลนิธิสัมมาชีพเพิ่มเติมได้ที่:

 

https://www.facebook.com/sammachiv

https://www.facebook.com/chumchonmeedee

https://www.youtube.com/user/RightLivelihoods

Back To Top