skip to Main Content
02-530-9204-5 sammachiv.pr@gmail.com
อะไรคือ ‘ผักออร์แกนิก”และอะไรคือ ผักปลอดสารพิษ”

อะไรคือ ‘ผักออร์แกนิก”และอะไรคือ ผักปลอดสารพิษ”

          มีใครเคยสงสัยไหมว่าเมื่อเราเดินเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้า หรือไปจ่ายตลาดซื้อผักสดมาบริโภคมักเห็นคำว่า ‘ออร์แกนิก’ แต่ทำไมเราจึงยังเห็นข่าวว่ามีการตรวจพบสารตกค้างในพืชผักตามซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ประกาศตัวว่าเป็น ‘ออร์แกนิก’อยู่เนืองๆ

          คงจะต้องมาทำความเข้าใจกับคำว่าออร์แกนิกเสียใหม่ และอย่าไปเหมารวม ‘ผักปลอดสารพิษ’ กับ‘ผักออร์แกนิก’ คือตัวเดียวกัน เพราะผักออร์แกนิกนั้นถือเป็นผักปลอดสารพิษ แต่ผักปลอดสารพิษไม่จำเป็นต้องเป็นออร์แกนิกเสมอไป

          ‘ออร์แกนิก’ แท้จริงแล้วอาจไม่ใช่แค่ไม่ฉีดสารเคมีฆ่าแมลงและปุ๋ยสังเคราะห์ แล้วประกาศว่าเป็นผลิตภัณฑ์ ‘ออร์แกนิก’ อย่างที่เห็นดาษดื่น เพราะแท้จริงแล้วต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้น นั่นคือผืนดิน ดูแลจนถึงการบรรจุก่อนถึงมือผู้บริโภค

          คำว่า ‘ออร์แกนิก ฟาร์มมิ่ง’ หรือการทำไร่นาอินทรีย์ตามธรรมชาตินั้นแท้จริงแล้วเป็นการเพาะปลูกที่ทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษของเรายังไม่รู้จักการใช้สารเคมี แต่หลังจาก ‘การพัฒนา’ ก็เริ่มมีการนำสารเคมีมาใช้ในอุตสาหกรรมเพาะปลูก จนต้องมีการจำแนกประเภทพืชผักที่ใช้สารและไม่ใช้สาร ก่อให้เกิดศัพท์คำว่า ‘ออร์แกนิก’ หรือ ‘อินทรีย์’ ที่สื่อถึงไร่นาอินทรีย์

          ก่อนจะทำความเข้าใจความหมายของคำว่าออร์แกนิก ขอยกตัวอย่างสิ่งที่คุ้นเคยที่สุดอย่างพืชผักกันก่อนดีกว่า อย่างที่บอกเราอย่าเพิ่งเหมารวมคิดว่า ‘ผักปลอดสารพิษ’ ก็เป็นอีกชื่อของ ‘ผักออร์แกนิก’ เปล่าเลย เพราะผักออร์แกนิกนั้นถือเป็นผักปลอดสารพิษ แต่ผักปลอดสารพิษไม่จำเป็นต้องเป็นออร์แกนิกเสมอไป

          ผักปลอดสารพิษหมายถึงพืชผักที่ไม่ใช้สารพิษกำจัดศัตรูพืชในการเพาะปลูก อันหมายถึงว่าไม่ใช้และไม่มียาฆ่าแมลงเจือปน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผักที่บริสุทธิ์ เพราะคำว่า ‘ปลอดสารพิษ’ ยังไม่ได้รวมถึงว่าการใช้ปุ๋ยเคมีเร่งโต กระทั่งอาจถูกตัดต่อทางพันธุกรรม (GMO) มาแล้วก่อนนำมาปลูกด้วยก็เป็นได้ แต่ยังถือว่ารับประทานได้ในระดับที่ปลอดภัย

          ขณะที่ผักออร์แกนิกนั้นปลูกด้วยวิธีธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่สัมผัสการใช้สารเคมีสังเคราะห์ทุกขั้นตอนการผลิต ปลูกตามฤดูกาลที่เหมาะสมของพืชชนิดนั้นๆ เพื่อให้เติบโตอย่างเป็น ‘ธรรมชาติ’ ที่สุด อาทิ การใช้สมุนไพรธรรมชาติในการไล่ศัตรูพืชแทนยาฆ่าแมลง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี และแน่นอนว่ารวมถึงการไม่ใช้เมล็ดพืชที่ตัดต่อพันธุกรรมมาแล้วเพื่อให้ได้สายพันธุ์ตามธรรมชาติ

          นอกจากนี้ ออร์แกนิกยังรวมไปถึงการจัดส่งไปจนถึงการจำหน่ายว่าต้องสดใหม่และไม่ปนเปื้อนสารเคมีใดๆ และด้วยการผลิตที่อาจยุ่งยาก เพราะต้องคำนึงหลายปัจจัย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพืชผักออร์แกนิกถึงมีราคาสูงกว่าปกติ

          ในปี 2016 เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือ PAN ได้แถลงข่าวการสุ่มตรวจสอบสารพิษตกค้างในผักผลไม้ และพบสารเคมีปนเปื้อนตกค้างจำนวนไม่น้อยในผักตามท้องตลาดของไทย กระทั่งผักปลอดสารพิษและผักที่ระบุตนว่าเป็น ‘ออร์แกนิก’ แม้ว่าเกษตรกรผู้ผลิตจะไม่ได้ใช้สารเคมีดังกล่าวก็ตาม เหตุผลก็เพราะมีการปนเปื้อนสารเคมีในระบบนิเวศอยู่ดั้งเดิม ทั้งในดิน น้ำ และอากาศ จากการใช้กันอย่างกว้างขวางและต่อเนื่องตลอดระยะเวลาไม่น้อยกว่า 50 ปี นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตรวจพบการตกค้างของสารเคมีการเกษตรในผลผลิตเกษตรอินทรีย์

          แม้ระดับการปนเปื้อนดังกล่าวจะอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับระดับ “ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดในการตรวจสอบ” อันเป็นค่าที่บ่งบอกถึงปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่สามารถมีได้ทั้งในผัก ผลไม้ รวมไปถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่อาจมีการตกค้างจากสารเคมีเกษตรทางอ้อม

          ดังนั้นอาหารออร์แกนิกจึงเป็นมากกว่าแค่ ‘ปลอดสารพิษ’ จากเกษตรกร โดยสมาคมผืนดินอินทรีย์ระบุไว้ว่า ‘อาหารอินทรีย์หรือออร์แกนิกทุกอย่างจะต้องสามารถติดตามและระบุได้ว่ามาจากแหล่งใดนับตั้งแต่จากไร่ไปจนถึงบนจานอาหาร โดยมาตรฐานของอาหารออร์แกนิกยังต้องตรงตามข้อกำหนดของกฎหมายของประเทศนั้นๆ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด อาหารออร์แกนิกนั้นผลิตโดยใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ใช้พลังงานในการผลิตไม่มาก และเคารพในธรรมชาติ’

          นี่คือความแตกต่างของนิยาม “ออร์แกนิก” กับ “ปลอดสารพิษ” แบบเข้าใจง่ายๆ ดังนั้นคำว่า ‘ออร์แกนิก’ แท้จริงแล้วอาจไม่ใช่แค่ไม่ฉีดสารเคมีฆ่าแมลงและปุ๋ยสังเคราะห์ แล้วจึงออกตัวได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ ‘ออร์แกนิก’ ดังที่เราเห็นเต็มท้องตลาด เพราะแท้จริงแล้วต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้น นั่นคือผืนดิน ความเอาใจใส่ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ดูแลจนถึงการบรรจุก่อนถึงมือผู้บริโภคอย่างเราๆ

 

บทความโดย : ทวี มีเงิน

Back To Top